เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยนายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้อำนวยการกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้อำนวยการกลุ่มงานที่ปรึกษากฎหมาย นิติกรรมและสัญญา กองนิติการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และคณะ เข้าพบหารือข้อราชการเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกับนางสาวพิฐรา นวรัตน์ อุปทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า วันนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมอบหมายให้ผมเข้าพบหารือท่านอุปทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม เพื่อขอบคุณที่ให้การดูแลแรงงานไทยที่มาทำงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาลเป็นอย่างดี และให้ความร่วมมือในการติดตาม ดูแลแรงงานไทยที่เดินทางมาเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนในแต่ละฤดูกาลให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย พร้อมหารือในประเด็นการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์และการค้ามนุษย์จากแรงงานที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน แนวทางการลดปัญหาค่าใช้จ่ายของแรงงาน ตลอดจนแนวโน้มความต้องการแรงงานและนโยบายการรับแรงงานต่างชาติของสวีเดนในปัจจุบัน และความเป็นไปได้ ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสวีเดน เพื่อส่งเสริมการเดินทางเข้าไปทำงานของแรงงานไทยมากขึ้น และเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในฤดูกาลปี 2567 การเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนเป็นการเดินทางด้วยวิธีนายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศ โดยนายจ้างจะต้องยอมรับเงื่อนไขและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของลูกจ้างทั้งหมด ลูกจ้างจะจ่ายเพียงค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จำเป็น ได้แก่ ค่าหนังสือเดินทาง ค่าตรวจลงตรา ค่าใบอนุญาตทำงาน ค่าอาหารวันละ 3 มื้อ และค่าที่พัก โดยมีนายจ้างเป็นผู้จัดหา และอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ได้รับต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศสวีเดน ประมาณเดือนละ 94,000 บาท และสัญญาจ้างแรงงานต้องมีการลงนามระหว่างทั้งสองฝ่าย ลูกจ้างจะต้องได้รับการตรวจลงตราวีซ่าจาก Migration Agency เพื่อประกอบการพิจารณายื่นคำขออนุญาตพาลูกจ้างไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน โดยล่าสุดได้อนุญาตให้แรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนตามฤดูกาล แล้ว 1,129 คน แรงงานไทยที่ไปเก็บผลไม้ป่ามีรายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่ายคนละประมาณนับแสนบาท ซึ่งแรงงานเหล่านี้เดินทางไปทำงานในช่วงว่างเว้นจากฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในประเทศไทย โดยไปทำงานในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน และแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าได้สร้างชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องความสามารถและความเชี่ยวชาญในการเก็บผลไม้ป่ามาอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของบริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทย ไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
12 กันยายน 2567
ผู้ชม 25 ครั้ง