“พิพัฒน์” ห่วงใย มอบ “บุญสงค์” เร่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุเครื่องบินเล็กตกบางปะกง

          เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 15.15 น. เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินเล็กตกบริเวณหลังวัดเขาดิน หมู่ที่ 6 ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จำหวัดฉะเชิงเทรา พบผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย นั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มอบ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยทันที

          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า ผมได้มอบหมายให้ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินเล็กของบริษัท ไทยฟลายอิ้ง เซอร์วิส จำกัด ขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทางเกาะไม้ชี้ จังหวัดตราด มีผู้โดยสารจำนวน 7 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 5 ราย ลูกจ้างบริษัท ทรอพพิคอล ไอแลนด์ จำกัด จำนวน 2 ราย ซึ่งขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างลาพักร้อน และเป็นผู้โดยสารร่วมเดินทางมากับคณะนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อกลับมาทำงาน และนักบินชาวไทย จำนวน 2 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น จำนวน 9 ราย โดยในจำนวนนี้หากมีผู้ประกันตนหรือผู้ที่อยู่ในความคุ้มครองดูแลของสำนักงานประกันสังคม ให้สำนีกงานประกันสังคมเร่งประสานให้ความช่วยเหลือครอบครัวในทันที

          ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า ตนได้สั่งการให้ นางสาวปวีณา วัชรศักดิ์ตระกูล หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา สาขาบางปะกง พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ผู้เสียชีวิตชาวไทยทั้ง 4 ราย นั้น อยู่ในความคุ้มครองดูแลของสำนักงานประกันสังคม จึงได้ประสานให้ความช่วยเหลือครอบครัวและชี้แจงสิทธิประโยชน์แก่ทายาทผู้เสียชีวิตอย่างเร่งด่วน รายละเอียดดังนี้

          1. ร้อยเอกอนุชา เดชอภิรักษ์ชน อายุ 61 ปี ตำแหน่งนักบิน สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 และได้รับเงินบำเหน็จชราภาพไปแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 จำนวน 122,970.29 บาท
          2. นายพรศักดิ์ โตทับ อายุ 30 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยนักบิน สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ขณะนี้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 38 (ผู้ประกันตนที่ออกจากงานแล้ว และยังได้รับความคุ้มครองต่ออีก 6 เดือน) จึงได้รับเงินจากกองทุนประกันสังคม ดังนี้ เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย จำนวน 30,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 37,999.50 บาท (ยังไม่รวมผลประโยชน์ตอบแทน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 117,999.50 บาท
          3. นางสาวนภัค จีระศิริ ได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย จำนวน 69,600 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 75,194.55 บาท (ยังไม่รวมผลประโยชน์ตอบแทน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 194,794.55 บาท
          4. นางสาวสิริยุพา อรุณาทิตย์ ได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 15,436.58 บาท (ยังไม่รวมผลประโยชน์ตอบแทน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 65,436.58 บาท

          เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า “ผมขอให้คำมั่นว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมทั้งทายาทของผู้เสียชีวิต ให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ”